Sports News

รัสเซีย เริ่มขนย้ายนิวเคลียร์ประจำการใน เบลารุส

หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม G7 ไปไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ล่าสุดประธานาธิบดีเบลารุส ได้ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าเรื่องการประจำการอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียบนแผ่นดินเบลารุสเช่นกัน หลังจากบรรลุข้อตกลงกับรัสเซียมาแล้วร่วม 2 เดือน

อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวขณะเยือนกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย โดยระบุว่า การขนย้ายหัวรบนิวเคลียร์จากรัสเซียมายังเบลารุสเริ่มขึ้นแล้ว

ไม่ใช่แค่ขู่! รัสเซียประกาศแผนติดตั้ง “อาวุธนิวเคลียร์” ในเบลารุส

รัสเซีย เตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับมืออาวุธนิวเคลียร์

จากนั้น นักข่าวได้ถามผู้นำเบลารุสว่าตอนนี้เบลารุสมีหัวรบนิวเคลียร์อยู่ในประเทศจริงหรือไม่ ก่อนที่ผู้นำเบลารุสได้ตอบแบบอารมณ์ดีว่าจะกลับไปตรวจสอบดูอีกครั้ง

การลงนามติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ในเบลารุสครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เคยประกาศเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมาว่า

รัสเซียมีแผนจะประจำการอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธวิธีพิสัยใกล้บนแผ่นดินเบลารุส โดยจะสร้างคลังเก็บอาวุธนิวเคลียร์ดังกล่าวให้แล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้

หลายฝ่ายมองว่านี่คือสัญญาณเตือนจากฝั่งเบลารุสและรัสเซีย ท่ามกลางท่าทีของชาติตะวันตกที่ชัดเจนขึ้นว่าพร้อมสนับสนุนเครื่องบินรบสัญชาติตะวันตกให้ยูเครนเพื่อปิดฉากสงครามครั้งนี้

หลังจากที่มีข่าวดังกล่าวออกมา หลายฝ่ายทั้งในและนอกประเทศเบลารุส ก็ได้ออกมาแสดงท่าทีไม่พอใจและกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้น

สำหรับความเห็นจากฝั่งเบลารุส สเวียตลานา ทิคานอฟสกายา หัวหน้าฝ่ายค้านของเบลารุสที่ลี้ภัยไปลิทัวเนีย ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวมอสโกไทม์เมื่อวานนี้ว่า การประจำการอาวุธนิวเคลียร์ไม่ได้เป็นภัยคุกคามกับแค่ชาวเบลารุส แต่ยังสร้างภัยคุกคามต่อยูเครนและทวีปยุโรปด้วย

นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าวยังขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเบลารุสและบันทึกรับประกันความมั่นคงบูดาเปสต์ปี 1991

ข้อตกลงบูดาเปสต์ 1991 เป็นข้อตกลงพหุภาคี 6 ฝ่ายระหว่างชาติมหาอำนาจที่ถือครองนิวเคลียร์อย่าง สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และรัสเซีย กับอดีตชาติสมาชิกสหภาพโซเวียตอย่างเบลารุส คาซัคสถาน และยูเครน ที่เคยมีนิวเคลียร์ครอบครอง

เป้าหมายของข้อตกลงบูดาเปสต์คือ การขอให้เบลารุส คาซัคสถาน และยูเครนกำจัดและทำลายหัวรบขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่ได้รับมาจากสหภาพโซเวียตทิ้งทั้งหมด แลกกับหลักประกันจากชาติชาติมหาอำนาจว่าจะไม่คุกคาม ไม่ใช้กำลังทหาร หรือไม่ข่มขู่ทั้งสามประเทศเหล่านี้ด้วยมาตรการทางเศรษฐกิจ

นี่ทำให้เบลารุส คาซัคสถาน และยูเครน ยอมสละอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมดทิ้งในช่วงระหว่างปี 1993-1996 จนกลายเป็นประเทศที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองดังเช่นปัจจุบัน

ดังนั้นการประจำการขีปนาวุธของรัสเซียบนแผ่นดินเบลารุสอีกครั้ง จึงถือเป็นการละเมิดข้อตกลงบูดาเปสต์ ทั้งยังเป็นการข่มขู่คุกคามยูเครนกลายๆ ด้วยมาตรการทางการทหารนอกเหนือจากการรุกรานแผ่นดินยูเครนที่เกิดขึ้นในตอนนี้

ส่วนความเห็นจากทางสหรัฐฯ แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกมาประณามการกระทำดังกล่าวอย่างรุนแรง แต่สหรัฐฯ จะยังไม่เปลี่ยนท่าทีเรื่องนิวเคลียร์ที่จะไม่ส่งอาวุธไปประจำการในชาติสมาชิกนาโต เนื่องจากยังไม่มีสัญญาณว่ารัสเซียจะใช้อาวุธนิวเคลียร์

ขณะที่รัสเซียนำขีปนาวุธไปประจำการบนแผ่นดินเบลารุส ทางฝั่งชาติตะวันตกก็เริ่มส่งสัญญาณชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าพร้อมสนับสนุนเครื่องบินรบ F-16 ให้ยูเครน ซึ่งเครื่องบินรบนี้จะเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเผด็จศึก

ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ออกมาแถลงข่าวว่าสหรัฐฯ จะสนับสนุนการฝึกนักบินยูเครนให้ใช้เครื่องบินสัญชาติตะวันตก และหวังว่าการฝึกจะเริ่มต้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อจากนี้

คำถามสำคัญคือ นักบินยูเครนต้องใช้เวลาฝึกนานเท่าใดจึงสามารถใช้เครื่องบินรบรุ่น F-16 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปกติแล้วขั้นตอนการฝึกบินเครื่องบินรบสัญชาติตะวันตกอย่าง F-16 จะใช้เวลาประมาณ 4-6 เดือน โดยการฝึกจะมี 2 เฟส คือ ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ในภาคทฤษฎี นักบินยูเครนจะต้องใช้เวลาช่วงนี้เรียนรู้ระบบต่างๆ ของเครื่องบินรบ

หลังจากนั้น นักบินยูเครนเริ่มฝึกการบินขั้นพื้นฐานทั้งในเวลากลางวันและกลางคึน พร้อมกับครูฝึก ก่อนที่นักบินยูเครนจะได้ฝึกบินด้วยตนเอง โดยจะมีทั้งแบบบินสกัดกั้น บินก่อกวนจากอากาศสู่อากาศเพื่อซ้อมรบขั้นพื้นฐาน

ซ้อมรบทางอากาศ และสกัดกั้นทางยุทธวิธี ตลอดจนได้ฝึกบินก่อกวนจากอากาศสู่พื้นเพื่อโจมตีภาคพื้นดิน ซึ่งถือเป็นการก่อจบหลักสูตร

หากการฝึกซ้อมนักบินยูเครนเริ่มต้นขึ้นในช่วงกลางเดือนหน้า นักบินยูเครนจะพร้อมนำ F-16 ของชาติตะวันตกขึ้นสู่น่านฟ้ายูเครนได้เร็วที่สุดในช่วงเดือนตุลาคมปีนี้ หรือช้าที่สุดในช่วงเดือนมกราคมปีหน้า

อย่างไรก็ดี แม้ว่านักบินยูเครนจะเรียนจบหลักสูตรการบิน F-16 และพร้อมบิน แต่ก็ยังมีปัญหาอื่นๆ ตามมา เช่น การจัดขีปนาวุธที่ใช้กับเครื่องบินรบ F-16 ที่มีราคาสูงมากราว 40 ล้านบาทต่อหัว รวมไปถึงการฝึกวิศวกรและทีมบำรุงเครื่องบินที่อาจใช้เวลาการฝึกเรียนรู้นานกว่าการฝึกนักบินหลายเท่าตัว แม้ว่าเส้นทางในการครอบครอง F-16 ของยูเครนจะยาวนานและค่อนข้างยากลำบาก แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลยูเครนยืนยันว่าจำเป็นต้องใช้เครื่องบินรบเหล่านี้เพื่อสู้กับรัสเซียในการชิงพื้นที่คืน

ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครนเคยระบุว่า เครื่องบินรบ F-16 เหล่านี้จะถูกนำไปจัดทัพร่วมกับอาวุธตะวันตกอื่นๆ เช่น รถถังเลพเพิร์ด 2 หรือยานยนต์หุ้มเกราะรุ่นมาร์เดอร์ เพื่อเสริมสมรรถภาพในการรบภาคพื้นดินของยูเครน

เครื่องบินรบ F-16 จะช่วยยิงขีปนาวุธทำลายหรือลดการป้องกันของศัตรูจากระยะไกลรวมถึงป้องกันการโจมตีใส่ขบวนรบภาคพื้นดิน ทำให้กองทัพยูเครนสามารถฝ่าทะลวงเข้าไปในแนวหน้าได้ลึกขึ้นกว่าเดิม

ปัจจุบันยูเครนใช้เครื่องบินรบรุ่นมิโคยาน มิก-29 เครื่องบินยุคสหภาพโซเวียตที่สร้างขึ้นในช่วงทศวรรษ 1980 เครื่องบินรุ่นนี้มีประสิทธิภาพสูง แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการรับมือรัสเซีย เนื่องจากกองทัพอากาศรัสเซียใช้เครื่องบินรบรุ่นใหม่กว่าอย่างรุ่นมิโคยาน มิก-31 บีเอ็ม (MiG-31BM) ที่ติดหัวรบพิสัยไกลรุ่น R-37M สามารถโจมตีเครื่องบินรบมิก-29 ของยูเครนได้ นอกจากนี้ ทางรัฐบาลโปแลนด์เคยออกมาระบุว่าเครื่องบินรบมิก-29 ไม่เหมาะกับการทำสงครามและการจัดทัพยุคใหม่ตามตำราของนาโตเมื่อเทียบกับเครื่องบินรบรุ่น F-16

อย่างไรก็ดี การให้เครื่องบินรบ F-16 แก่ยูเครน ถือเป็นโจทย์ใหญ่และยากสำหรับชาติพันธมิตรตะวันตก เนื่องจากเป็นยุทโธปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความเสี่ยงที่ยูเครนอาจนำไปโจมตีแผ่นดินรัสเซียจนนาโตและรัสเซียต้องเผชิญหน้ากัน

ล่าสุด มาร์ก มิลลีย์ ประธานเสนาธิการร่วมสหรัฐฯ ได้ออกมาย้ำยูเครนอีกครั้งว่า ยูเครนไม่ควรนำอาวุธที่ได้รับมอบจากชาติตะวันตกไปโจมตีแผ่นดินรัสเซีย และสหรัฐฯ ขอร้องยูเครนเสมอว่าไม่ให้ทำเช่นนั้นเพราะไม่ต้องการให้สงครามลุกลามบานปลายคำพูดจาก สล็อต888

การออกมาแถลงปรามยูเครนของประธานเสนาธิการร่วมสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางการรัสเซียรายงานว่าพบยานยนต์ล้อยางอเนกประสงค์ความคล่องตัวสูง หรือฮัมวีส์ (Humvees) ยานยนต์สัญชาติสหรัฐฯ ถูกทิ้งไว้โดยกลุ่มกองกำลังเสรีภาพรัสเซียและรัสเซียอาสา ที่เข้าไปก่อความไม่สงบในแคว้นเบลโกรอด

ขณะเดียวกัน ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซียและรองประธานสภา ความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย ได้ออกมาพูดถึงเรื่องการส่งอาวุธของชาติตะวันตกไปให้ยูเครนเช่นกัน

เมดเวเดฟระบุว่า ถ้าชาติตะวันตกจัดหาอาวุธนิวเคลียร์ให้ยูเครน รัสเซียจะชิงเปิดด้วยการยิงนิวเคลียร์ใส่ยูเครนก่อน

นอกจากนี้ เขายังได้กล่าวเสริมในเชิงข่มขู่ว่าถ้าชาติตะวันตกส่งอาวุธที่ประสิทธิภาพสูงไปให้ยูเครนมากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะเกิดสถานการณ์วันสิ้นโลกจากการใช้อาวุธนิวเคลียร์

ด้านสำนัก TASS ยังได้อ้างคำพูดของเมดเวเดฟที่ระบุว่า ชาติตะวันตกไม่รู้จักนิวเคลียร์แบบลึกซึ้งและเชื่อว่าการใช้นิวเคลียร์จะไม่เกิดขึ้น แต่เรื่องนี้อาจเกิดขึ้นได้ “ภายใต้เงื่อนไขบางประการ”

ขณะที่ชาติตะวันตกออกมาปรามยูเครนไม่ให้อาวุธโจมตีรัสเซีย และรัสเซียออกข่มขู่ว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ถ้าจำเป็น ล่าสุดวันนี้สื่อรัสเซียรายงานว่าเกิดเหตุความไม่สงบขึ้นบนแผ่นดินรัสเซียอีกครั้ง

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ( 26 พ.ค.) ทาสส์ (TASS) สำนักข่าวของรัสเซียรายงานว่าเกิดเหตุระเบิดปริศนาขึ้นที่อาคารแห่งหนึ่งแคว้นคราสโนดาร์ ทางตอนใต้ของรัสเซีย แต่เคราะห์ดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุที่เกิดขึ้น

นอกจากแคว้นคราสโนดาร์แล้ว วันนี้วยาเชสลาฟ กลาดคอฟ ผู้ว่าการแคว้นเบลโกรอดก็ได้ออกมารายงานเช่นกันว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยิงโจมตีแคว้นเบลโกรอดตลอดทั้งคืน แม้เหตุจราจลโดยกองกำลังเสรีภาพรัสเซียและรัสเซียอาสาจะจบลงแล้ว

ขณะเดียวกัน ทางการยูเครนก็ได้รายงานเช่นกันว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนสามารถยิงสกัดโดรนรัสเซียได้ 20 ลำ พร้อมกับสกัดขีปนาวุธรัสเซียได้อีก 10 ลูก ขณะกำลังพุ่งเข้ามาโจมตีกรุงเคียฟ แคว้นดนีโปรเปตรอฟสก์ รวมถึงพื้นที่ด้านตะวันออก

ของยูเครน อย่างไรก็ดี เซอร์ฮี ลีซัค ผู้ว่าการแคว้นดนีโปรเปตรอฟสก์เปิดเผยผ่านเทเลแกรมว่าการโจมตีทางอากาศครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับสถานที่ทางการแพทย์ของแคว้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 15 ราย

Tagged:

Related Posts